คานาสือ ทะเลสาบเปลี่ยนสี ที่จีน

คานาสือ ทะเลสาบเปลี่ยนสี มหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่จีน

ทะเลสาบ คานาสือ หรือ ฮานาซือ ในภาษาจีนเป็นทะเลสาบน้ำจืด ที่อยู่ท่ามกลางวงโอบล้อมของเทือกเขาอัลไต มีพื้นที่กว่า 2,000 ตารางกิโลเมตร โดยอยู่บริเวณตอนเหนือสุดของเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ อยู่ระหว่างพรมแดนจีนกับคาซัคสถาน โดยคำว่า “คานาส” เป็นภาษามองโกล แปลว่า “ทะเลสาบท่ามกลางขุนเขา”

ทะเลสาบ คานาสือ เป็นทะเลสาบทรงรีอยู่เหนือระดับน้ำทะเลถึง 1,370 เมตร มีโค้งใหญ่ ๆ รวม 6 แห่ง ยาวรวมทั้งสิ้น 24 กิโลเมตร นอกจากนี้แล้ว ทะเลสาบ คานาสือ ยังถือว่าเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่มีความลึกที่สุดในโลกอีกด้วย โดยจุดที่ลึกที่สุดนั้นอยู่บริเวณโค้งที่ 2 มีความลึกราว 188 เมตร หรือเทียบเท่ากับตึกราว 60 ชั้น

ทะเลสาบ คานาสือ แห่งนี้ มีฉายาว่า “ทะเลสาบเปลี่ยนสี” ด้วยเหตุที่เมื่อสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง สีของน้ำในทะเลสาบก็จะเปลี่ยนตาม กล่าวคือ ในวันท้องฟ้าสดใสน้ำในทะเลสาบแห่งนี้จะเป็นสีเขียวครามเข้ม ในวันครึ้มฟ้าครึ้มฝน น้ำในทะเลสาบจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวเทา และในช่วงฤดูร้อนที่อุณหภูมิเพิ่มขึ้นสูงน้ำในทะเลสาบก็จะสะท้อนออกมาเป็นสีเขียวครามขุ่น

นอกจากนี้แล้ว รอบ ๆ ทะเลสาบ คานาสือ ยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติ ด้วยมีความหลากหลายของพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์มากมาย มีสัตว์หายากหลายชนิดที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ เช่น หมีสีน้ำตาล (Ursus arctos), แมวป่าลิงซ์ยูเรเซีย (Lynx lynx), เสือดาวหิมะ (Uncia uncia) เป็นต้น

View Larger Map

มิตจีนา เมืองริมแม่น้ำอิระวดี ประเทศพม่า

พาเยือน มิตจีนา เมืองที่มีความสำคัญทางด้านการค้าระหว่างจีนและพม่าตั้งแต่สมัยครั้งประวัติศาสตร์ และเป็นอีกหนึ่งเมืองน่าเที่ยวของ ประเทศพม่า

มิตจีนา มนต์เสน่ห์อิระวดี

มิตจีนา เป็นเมืองหลวงของ รัฐกะฉิ่น ทางตอนเหนือของ พม่า ตั้งอยู่ริมแม่น้ำอิระวดี ระหว่างเมืองมัณฑะเลย์ และ เมืองภูตาโอ โดยอยู่ห่างจาก มัณฑะเลย์ ประมาณ 850 กิโลเมตร ปัจจุบัน มิตจีนา ถือเป็นศูนย์กลางของการศึกษา เนื่องจากเป็นที่ตั้งของ มหาวิทยาลัยมิตจีนา วิทยาลัยครู เป็นที่ตั้งของ สนามบินมิตจีนา ซึ่งใช้เดินทางเชื่อมต่อไปยัง มัณฑะเลย์ และ ภูตาโอ ทั้งยังเป็นที่ตั้งของวัดสำคัญๆ เช่น วัดธรรมรักขิตะวอนโต วัดพระนอน ละเยาโตมูทยา และใครชอบของแปลกแนะนำให้ไปเดินเที่ยวตลาดพื้นเมืองของมิตจีนา รับรองละลานตาไม่น้อย

หนึ่งความพิเศษของ มิตจีนา คือ ยอดข่ากาโบราซี ยอดเขาที่สูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความสูงประมาณ 5,881 เมตร เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย บนยอดเขามีทั้งหิมะปกคลุมและธารน้ำแข็ง ปัจจุบันปรากฏเป็นสัญลักษณ์อยู่บนธงของรัฐกะฉิ่น

พระเจดีย์กลางน้ำชเวมิตซุ

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด เมื่อไปเยือน มิตจีนา คือ พระเจดีย์กลางน้ำชเวมิตซุ (Shwe Myint Zu Pagoda) พระเจดีย์ที่เชื่อกันว่าศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในรัฐกะฉิ่น ตั้งอยู่ในทะเลสาบอินดอยี หนึ่งในทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทะเลสาบแห่งนี้อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 546 ฟุต ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทะเลสาบอินดอยี 

 

มิตจีนา ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น เมืองที่มีทัศนียภาพริมฝั่งแม่น้ำอิระวดีสวยงามที่สุดในประเทศพม่า หากใครต้องการเดินทางมาเที่ยว ต้องนั่งเครื่องไปลงที่ มัณฑะเลย์ และต่อเครื่องบินหรือรถไฟมายัง มิตจีนา ระยะทางประมาณ 640 กิโลเมตร

View Larger Map

สระน้ำหลุมยุบ เมลิสซานี ถ้ำสวยงามกลางทะเลกรีซ

สระน้ำ หรือ ถ้ำ ที่เกิดจากหลุมยุบในอดีต ก่อให้เกิดความสวยงามทางธรรมชาติ ในปัจจุบันก็มีสระน้ำประเภทนี้เกิดขึ้นหลายแห่งทั่วโลก วันนี้ ขอพาสมาชิกมิตรรัก มาชมความน้ำของถ้ำ เมลิสซานี บนเกาะเซฟาโลเนีย เกาะที่ใหญ่ที่สุดของหมู่เกาะไอโอเนียน ประเทศกรีซ ที่มีความสวยงามไม่แพ้สระน้ำจากที่อื่นๆ

สระน้ำหลุมยุบ เมลิสซานี ถ้ำสวยงามกลางทะเลกรีซ

เมลิสซานี (Melissani Cave) เป็นถ้ำที่เดินทางมาเที่ยวสะดวก เพราะอยู่ใกล้เมืองหลวงของกรีซ ส่วนหนึ่งของถ้ำแห่งนี้เกิดจากการยุบตัวเมื่อหลายพันปีก่อน ทำให้เกิดเป็นรูโหว่ ให้แสงส่องผ่านสร้างความสวยงามอันน่าตื่นตาตื่นใจ ภายในถ้ำมีโถงใหญ่ 2 ห้อง เต็มไปด้วยน้ำและแมกไม้ มีเกาะคั่นกลางระหว่างห้องทั้ง 2 โถงแรกนี่เอง ที่เกิดการยุบตัวของพื้นดินด้านบนจนทำให้หลังคาโถงเป็นช่องโหว่ ให้แสงแดดส่องผ่าน เมื่อถัดไปในโถงห้องที่ 2 ก็จะมีหลังคาโค้ง มีหินงอกหินย้อยสร้างอารมณ์ที่แตกต่างกันในสถานที่แห่งเดียว

ผู้ที่ค้นพบถ้ำนี้ คือ Giannis Petrocheilos ในปี 1951 ตามรายงานไม่มีระบุไว้ว่าไปพบเจอได้อย่างไร แต่คาดกันว่าอารมณ์ของผู้ที่พบเจอสถานที่แห่งนี้ในครั้งแรก คงยากจะบรรยายออกมา เพราะว่ามันสวยเกินจะพูดให้ใครฟังได้เท่าตาเห็น และไม่น่าเชื่อว่าธรรมชาติได้สร้างสรรค์งานศิลปะสุดน่าทึ่งนี้ขึ้นมา..

สระน้ำหลุมยุบ เมลิสซานี ถ้ำสวยงามกลางทะเลกรีซ

View Larger Map

สระน้ำหลุมยุบ เมลิสซานี ถ้ำสวยงามกลางทะเลกรีซ

10 อันดับ สถานที่เปลือยกาย สำหรับคนชอบนู้ด

พาปลดปล่อย ด้วยการชมสถานที่ปลดเปลื้อง เมื่อมนุษย์อยากเป็นอิสระทั้งทางกายและใจในบางช่วงเวลา อยากประกาศให้โลกรู้ว่าทุกสรีระล้วนไม่ยั่งยืน โชว์ๆ ไปเถ๊อะ!? แต่จงเลือกแสดงออกให้ถูกที่ถูกกาลเทศะ กับ 10 อันดับ สถานที่เปลือยกาย สำหรับคนชอบนู้ด

สถานที่เปลือยกาย สำหรับคนชอบนู้ด

1. World Naked Bike Ride ประเทศอังกฤษ

นู้ดแบบมีเจตนารมณ์ นู้ดเพื่อช่วยโลกใบกลม กับการรวมพลคนเปลือยปั่นจักรยาน ทำให้ ประเทศอังกฤษ กลายเป็น สถานที่เปลือยกาย จากการรวมกลุ่มแก้ผ้าประท้วงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยในแต่ละปีจะมีผู้เข้าร่วมจาก 50 กว่า เมืองทั่วโลก เพื่อรณรงค์ให้ผู้คนหันมาใช้จักรยานในการเดินทาง ต่อต้านการใช้รถยนต์ ซึ่งก่อทั้งมลพิษและสิ้นเปลืองพลังงาน อันเป็นสาเหตุให้เกิดสภาวะแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศ อืม สงสัยปั่นเฉยๆ กลัวใครจะไม่รู้ว่าประท้วง เลยต้องปั่นแบบโป๊ๆ จะได้โชว์พาวเวอร์ได้เต็มที่!

 

2. Couples Tower Isle Resort เมืองออคโคส์ ริโอส์ ประเทศจาไมก้า

 

ถือเป็นความบังเอิญ ที่จับพลัดจับผลูเป็น สถานที่เปลือยกาย ไปโดยปริยายซะงั้น เพราะดันเป็นรีสอร์ทที่สงวนสิทธิ์สำหรับคู่รัก เหมาะแก่การฮันนีมูนโดยเฉพาะ และยังมีเกาะส่วนตัวเล็กๆ ชื่อ “ทาวเวอร์ ไอส์แลนด์” ให้บริการสำหรับแขกที่ต้องการอาบแดด พักผ่อนแบบนู้ดๆ โดยไม่ต้องเกรงใจสายตาใคร

 

3. Centre Helio Marin (CHM) เมือง Montalivet ประเทศฝรั่งเศส

 

นี่เลย! สถานที่นู้ดต้นฉบับ รีสอร์ทแคมป์  “CHM Montalivet” ให้บริการมาตั้งแต่ ค.ศ. 1950 (พ.ศ. 2493) ถือเป็นสถานที่พักผ่อน + สถานที่เปลือยกาย แห่งแรกของโลก  เข้าพักได้ทุกช่วงวัย จัดให้ทุกคนในครอบครัว ไม่ต้องกลัวเหงา ภายในมีชายหาดนู้ดให้อาบแดด รวมถึงจุดตั้งแคมป์ บังกาโล  ร้านค้า สนามกีฬา สวนน้ำ เปลือยได้ทุกที่ทุกเวลา ขอบอก!

 

4. Hedonism Resort ประเทศจาไมก้า

 

Hedonism Resort สถานที่เปลือยกาย ที่มีความหมายแฝงตั้งแต่ชื่อ ซึ่ง Hedonism คือ หลักการเชิงปรัชญาว่าด้วยความสุข ในรูปแบบของความพึงพอใจ ซึ่งเป็นแรงจูงใจในการผลักดันพฤติกรรมของมนุษย์ ประมาณว่าปลดปล่อยกันได้เต็มที่ภายใต้ปาร์ตี้สุดมันส์ แต่งานนี้ 18+ เท่านั้น!! โดยมี 2 โซนให้เลือก คือ “Hedonism II” ที่ชายหาดเนกริล และ “Hedonism III” ที่รันอะเวย์ เบย์ ซึ่งทั้ง 2 แห่งนี้ล้วนมี “นู้ดบีช” ให้เปลือยกายอาบแดด หรือใครชอบสังสรรค์ก็มีหลายงานให้เลือก เช่น “โทก้า ปาร์ตี้” ปาร์ตี้ที่ผู้ร่วมงานจะต้องแต่งชุดโรมันโบราณ “งานมาดิกราส์ ไนท์” ปาร์ตี้แฟนซีสไตล์คาร์นิวัล และงานปาร์ตี้แฟนซี แนวอีโรติก งานนี้คงไม่ต้องถามว่าใส่ชุดอะไร..Happy Birthday to you!

5.  Gay Pride Parade

สถานที่ (แอบ) เปลือยกาย ของชาวสีม่วง แม้การเปลือยกายกลางที่สาธารณะใน งานเกย์ ไพรด์ พาเหรด จะไม่เป็นที่ยอมรับหรืออาจผิดกฎหมาย แต่ก็มักจะมีคนฝ่าฝืน ใจกล้าขอโชว์ทั้งท่อนบนท่อนล่างให้เห็นเสมอ แถมยังเป็นงานที่จัดขึ้นอย่างแพร่หลายทั่วโลก อาทิ โตรอนโต และแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา, อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์, นิวออร์ลีน และ ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา โดยจะมีกลุ่มคนรักร่วมเพศ ตลอดจนนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้าร่วมงานนับหมื่นคน อีกหนึ่งงานเปลือยระดับโลก!

 

6. ล่องเรือหรู แบบนู้ดๆ รอบเกาะเวอร์จิ้น

 

นู้ดกลุ่มบนเรือยอชท์ อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับ สถานที่เปลือยกาย ซึ่งจัดโดย บริษัท โบ้ทอินเดอะบัฟฟ์ ที่นำเสนอแพคเกจสุดนู้ด เอาใจคอเดียวกัน โดยหนึ่งทริปสามารถมีสมาชิกได้ 8 คน มาพักผ่อน สังสรรค์บนเรือยอชท์ขนาด 60 ฟุต แบบเหมาลำ เป็นเวลา 1 สัปดาห์ และงานนี้ไม่มีใครใส่เสื้อผ้า แม้่แต่กัปตันและเชฟ บร๊ะ! เปลือยจริง เปลือยจัง! นู้ดเพลินกับทิวทัศน์กลางทะเลแคริบเบียน พร้อมอิ่มท้องกับอาหารปรุงสดทุกมื้อ แต่ถ้าใครใจไม่ถึง ก็เลือกบริการแบบไม่นู้ดได้ กัปตันและเชฟก็ยินดีใส่ ไม่ว่ากัน!

 

7. เทศกาลมาร์ดิกราส์ เมืองนิวออร์ลีนส์  สหรัฐอเมริกา

“เทศกาลมาร์ดิกราส์” ประเพณีของชาวคริสต์เพื่อเตรียมต้อนรับเทศกาลอีสเตอร์ หนึ่งในงานปาร์ตี้สไตล์คาร์นิวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะแสดงความศรัทธาต่อศาสนาอย่างจริงจัง โดยประชาชนจำนวนมากจะชุมนุมกันตามท้องถนนในเมืองนิวออร์ลีนส์  เพื่อดื่มเฉลิมฉลอง พร้อมชมขบวนพาเหรดแฟนซีที่สวมเสื้อผ้าหลากสีสัน นอกจากนี้ยังมีการโยนสร้อยคอลูกปัดจากระเบียงตึกให้แก่คนที่เบื้องล่าง ซึ่งถือเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมา ถึงแม้จะไม่ใช่ พาเหรดเปลือย แต่ทุกครั้งที่จัดงาน มักจะมีคนใจกล้าแอบเปลือยท่อนบน หรือบางทีก็ท่อนล่าง แฝงๆ เนียนๆ อยู่กลางฝูงชนเสมอ แต่สุดท้ายก็ถูกตำรวจจับข้อหาเปลือยกายในที่สาธารณะ เพราะเจ้าหน้าที่ก็ใช้มุขซ่อนตัวแบบเดียวกันกับคอนู้ดนั่นเอง!

8. โรงแรมวิคเตอร์ ไมอามี่ มลรัฐฟลอริด้า  สหรัฐอเมริกา

โรงแรมวิคเตอร์ สถานที่เปลือยกาย สุดหรู ในไมอามี่ นอกจากจะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งใน รีสอร์ทที่เซ็กซี่ที่สุดในโลก แล้ว ที่นี่ยังมีชายหาดส่วนตัวให้นอนนู้ด ผึ่งแดด เปลือยท่อนบน หรือจะเลือกผ่อนคลายที่ “สปา วี” ซึ่งมีห้องสตีมรูมแบบรวม ไม่แยกชายหญิง และโรงอาบน้ำสไตล์ตุรกี ซึ่งมีทั้งแบบห้องเปลือยและไม่เปลือยให้เลือก

 

9. มันดาเลย์ เบย์ ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา

 

โรงแรมและรีสอร์ทที่ลาสเวกัส กลายเป็น สถานที่เปลือยกาย ยอดนิยมของสาวๆ ไปซะแล้ว ใครอยากลองอาบแดดแบบเปิดเผย ต้องที่นี่เลย มันดาเลย์ เบย์ รีสอร์ท แอนด์ คาสิโน เพราะมี Moorea Beach Club คลับสไตล์ยูโรเปี้ยน ไว้บริการ สำหรับบุคคลที่มีอายุ 21 ปีขึ้นไปเท่านั้น โดยสามารถนอนอาบแดด เปลือยอก บนเก้าอี้ชายหาดสีแดง ริมสระน้ำ พร้อมเลือกผ่อนคลายด้วยบริการนวดตัว จดไว้อีกหนึ่งสถานที่หัดโป๊!

 

10. เทมป์เทชั่น รีสอร์ท เม็กซิโก

 

สถานที่เปลือยกาย อันดับต้นๆ ของเม็กซิโก ต้องยกให้ เทมป์เทชั่น รีสอร์ท สำหรับการพักผ่อนแบบนู้ดๆ มีให้เลือกใน 2 แห่ง คือ ลอส คาโบส์ และ แคนคูน เปิดให้บริการเฉพาะนักท่องเที่ยว อายุ 21 ปีขึ้นไป จะมาโสด มาคู่ ได้หมด! พร้อมเพลินกับกิจกรรมต่างๆ ตลอดวัน มีอาหารบริการ 24 ชั่วโมง เปลือยท่อนบนสบายๆ แหวกว่ายในสระซึ่งเตรียมไว้เฉพาะสำหรับคนชอบนู้ด!

วังสวนกุหลาบ โกเลสตาน ประเทศอิหร่าน

พระราชวัง โกเลสตาน (Golestan Palace) หรือ วังสวนกุหลาบ กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 19 ในยุคสมัยของกษัตริย์คาจาร์ ( Qajar) เพื่อใช้เป็นที่ประทับส่วนพระองค์ ซึ่งเป็นพระราชวังมีความกว้างขวางใหญ่โต พร้อมด้วยสวนดอกไม้ที่งดงาม อ่างน้ำสีน้ำเงินที่ทำด้วยหินอ่อนในสนามรอบ นอกจากนี้ ยังมีตำหนักต่างๆ อีก 7 อาคารอยู่ในบริเวณเดียวกัน มีอาคารรูปลักษณ์โบราณ และคลาสสิกแบบยุโรป

พระราชวัง โกเลสตาน, อิหร่าน

แต่เดิม พระราชวัง โกเลสตาน แห่งนี้ เป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่มาก ย้อนไปตั้งแต่สมัยราชวงศ์ ซาฟาวิด เมื่อคริสต์วรรษที่ 16 ยังมีร่องรอยสิ่งก่อสร้างที่หลงเหลืออยู่ คือ ป้อมสูง (Citadel) สำหรับส่องดูข้าศึก และสถานอาบน้ำแบบเติร์ก ส่วนตัวอาคารแบบตะวันตกที่ปรากฏให้เห็นในปัจจุบันนั้น มีเพิ่มเติมเข้ามาเมื่อกษัตริย์ราชวงศ์รองสุดท้ายของเปอร์เซีย คือ ราชวงศ์คาจาร์ คือกษัตริย์นัสเซอร์ อัล-ดิน ชาห์ ได้เสด็จยุโรปแล้วเห็นเจริญ และความสวยงามทางสถาปัตยกรรมแล้วประทับใจ จึงนำศิลปยุโรปดังกล่าวเข้ามาผสมกับวิถีชิวิตของชาวอิหร่าน ดังเช่น ตำหนักแบบนีโอคลาสสิกของยุโรป โกเลสตาน แห่งนี้

พระราชวัง โกเลสตาน ปัจจุบันยังคงใช้เป็นที่รับรองบุคคลสำคัญอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแขกบ้านแขกเมืองมาจากต่างประเทศ จากชั้นล่างสู่ชั้นบนต้องเดินขึ้นบันไดให้ถูกทางตามที่กำหนด ภายในตกแต่งด้วยหินอ่อนแบบไม่ธรรมดา และห้องต่าง ๆ ได้ถูกนำมาพัฒนากลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อเปิดให้เข้าชมได้ การจัดแสดงออกแบบไว้อย่างหลากหลาย รวมถึงเครื่องถ้วยชาม ภาพวาดที่ดูเหมือนมีชีวิตชีวาซึ่งถูก เขียนขึ้นด้วยลายมือ ของกำนัลจากประเทศต่างๆ,โต๊ะเคลือบ, ลูกบิด เบียด และอื่นๆ อีกมากมาย

สิ่งที่ดึงดูดมากที่สุดคือ บัลลังค์นกยูง ซึ่งจะถูกตั้งไว้ในด้านหลังสุดของห้องใหญ่กับเตียงนอนที่ใหญ่ ซึ่งงดงามไม่แพ้กัน และอดีตเคยใช้สำหรับใช้ในพิธีการสวมมงกุฎ นอกจากนี้ตัวบัลลังค์ที่ใช้ประกอบพิธีจะมีพลอย เนื้ออ่อน ปักเรียงรายอยู่ ถูกนำมาจากโรงงานที่มีชื่อเสียงใน เมืองเดลลี่ ประเทศอินเดีย โดยคณะทูตชาวอิหร่านที่อยู่ภายใต้การปกครองของผู้นำ นาเดอร์ ชาร์ (Nader Shah)

ปัจจุบันความสวยงามของ พระราชวัง โกเลสตาน ของอิหร่าน ทางด้านองค์การยูเนสโก ได้ประกาศให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ล่าสุดปี 2013 คาดว่าในอนาคตจะมีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเที่ยว และถ่ายภาพ พระราชวังโกเลสตาน เป็นที่ระลึกกันเป็นจำนวนมากขึ้น

View Larger Map

วังสวนกุหลาบ โกเลสตาน กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน